กิจกรรมและบทความ

9/12/2565

จัดการหนี้บ้านอย่างไรในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น

Credit : https://www.bot.or.th/Thai/BOTMagazine/Pages/25650393FinancialWisdom_HouseDebt.aspx


13/12/2565

หลายคนที่ผ่อนบ้านกันอยู่คงจะเห็นสัญญาณบ่งบอกว่าอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากธนาคารกลางหลายประเทศเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อดูแลเศรษฐกิจจากการที่เงินเฟ้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในที่สุดแล้วย่อมส่งผลมาถึงภาระการผ่อนบ้าน กล่าวคือ อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านก็จะสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วลูกหนี้สินเชื่อบ้านกลุ่มใดจะได้รับผลกระทบบ้าง และเราจะมีวิธีไหนมาช่วยลดภาระดอกเบี้ย รวมถึงมีเทคนิคอะไรบ้างที่จะช่วยให้ปลดหนี้บ้านได้เร็วขึ้นด้วย Financial Wisdom มีคำตอบและคำแนะนำมาฝาก

ในวงการสินเชื่อบ้านจะมีกลุ่มคนที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ 2 กลุ่ม ที่จะได้รับผลกระทบแตกต่างกัน คื

1. กลุ่มที่ได้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Fixed Rate) กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากยังผ่อนค่างวดแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ในช่วงแรกของสัญญา เช่น ดอกเบี้ยคงที่ 3% นาน 3 ปี และหลังจากนั้น จึงจะคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว การจ่ายดอกเบี้ยแบบคงที่ จะช่วยให้ค่างวดที่ชำระสามารถตัดเงินต้นได้เยอะกว่าดอกเบี้ย 

2. กลุ่มที่จ่ายอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate) กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการจ่ายอัตราดอกเบี้ย เมื่อถึงกำหนดสัญญาที่ต้องปรับ ซึ่งดอกเบี้ยจะแพงมาก เมื่อชำระค่างวดเท่าเดิม ค่างวดเราจะถูกนำไปตัดดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น เมื่อเทียบกับการชำระตามข้อ 1. 

สำหรับคนที่อยากลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ หรือลดหนี้บ้านให้หมดไวขึ้น ลองมาทำตามวิธีนี้กันดู

1.  จัดการรายรับ-รายจ่าย ได้แก่  ลดรายจ่าย  เพิ่มรายได้

     เพราะการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ จะช่วยให้เรามีเงินเหลือเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีเงินเหลือ เราก็สามารถนำเงินที่เหลือไปโปะหนี้เพิ่ม เพื่อปลดหนี้ให้เร็วขึ้น และยังประหยัดดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายอีกด้ว เราอาจจะปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต่างๆ อย่างเช่น ค่ากาแฟที่เราจ่ายทุกวัน หรือค่าลอตเตอรี่ที่เราจ่าย 2 ครั้งต่อเดือนในทุกเดือน โดยอาจจะลดปริมาณการซื้อลง ไม่แน่เราอาจจะเห็นเงินก้อนที่เพิ่มขึ้นจนเราตกใจก็เป็นได้  นอกจากนี้ ก็อาจจะหารายได้เสริมเพิ่มเติมจากรายได้หลัก ตามแต่ที่เราถนัด เช่น การขายของออนไลน์ หรือขายเสื้อผ้าเป็นต้น

2. เจรจากับเจ้าหนี้ หรือหาเงื่อนไขใหม่ที่ดีกว่า ได้แก่ ขอเจรจาลดอัตราดอกเบี้ย และรีไฟแนนซ์ (Refinance) 

    การเจรจาต่อรองเพื่อขอลดอัตราดอกเบี้ยกับเจ้าหนี้เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้และควรทำ  เพราะหนี้บ้านส่วนใหญ่จะมีอัตราแบบ 2 แบบ แบบแรกคือแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ในช่วงแรก และอัตราดอกเบี้ยลอยตัวในช่วงที่สอง ซึ่งแบบหลังดอกเบี้ยจะแพงมากขึ้น ไปจนสิ้นอายุสัญญา  

    เมื่อเราผ่อนดอกเบี้ยไปจนถึงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เราสามารถเข้าไปขอยื่นเรื่องเจรจาขอลดอัตราดอกเบี้ยเป็นแบบคงที่ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ดีกว่าไม่เจรจาใดๆ เลย และผ่อนตามสัญญาไปเรื่อยๆ 

    ถัดไปคือการขอรีไฟแนนซ์ ไปยังสถาบันการเงินที่ให้เงื่อนไขดอกเบี้ยเงินกู้ที่ดีกว่าสถาบันการเงินปัจจุบันที่เราผ่อนอยู่  แต่อย่าลืมคำนึงถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ด้วยเช่น ค่าเบี้ยปรับชำระก่อนครบกำหนด, ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ของสถาบันการเงินที่ใหม่, ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง เป็นต้น ดังนั้นก่อนการทำรีไฟแนนซ์ อยากแนะนำให้เปรียบเทียบข้อมูลของแต่ละสถาบันการเงินให้ดีก่อน 

(สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ของธนาคารแห่งประเทศไทย https://www.bot.or.th/Thai/BOTMagazine/Pages/25650393FinancialWisdom_HouseDebt.aspx) 

Recommended articles

กิจกรรม CSR ขัดบ่อเต่าทะเล และปล่อยเต่าสู่ท้องทะเล

ดูเพิ่มเติม

TOWN HALL 2024 "MEETING & PLAYING" TOPGOLF MEGACITY

ดูเพิ่มเติม

ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรม สำหรับการโอนและการจำนองจากการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ และห้องชุดพักอาศัย ในปี 2566

ดูเพิ่มเติม

ต่างชาติ สามารถถือครองอสังหาริมทรัพย์ไทยได้มากแค่ไหน ?

ดูเพิ่มเติม

อัลฟาแคปปิตอล พาร์ทเนอร์ส กรุ๊ป ยื่นไฟลิ่งเสนอขายหุ้น IPO มุ่งสู่บริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำระดับประเทศ

ดูเพิ่มเติม